เฟอร์กี้ ปรมาจาย์ชั้นครูที่ยังมีลมหายใจอยู่
ในช่วงเกือบ3 ทศวรรษที่ผ่านมาวงการลูกหนังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายโดยเฉพาะการแข่งขันของแต่ละทีมที่พยายามยกระดับของตนเองให้มีศักยภาพพอที่จะได้ลิ้มลองความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมนอกจากการวางระบบโครงสร้างของสโมสรหรือจะเป็นการบริหารจัดการภายในทีมรวมทั้งการพัฒนานักเตะเยาวชของสโมสรทุกองค์ประกอบนี้ถือเป็นปัจจัญสำคัญในการนำไปสู่เป้าหมายตามที่ต้องการ นอกจากนี้แล้วผู้เป็นเบื้องหลังแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่ในการพาสโมสรฟุตบอลก้าวขึ้นไปยืนอยู่จุดสูงสุดนั่นก็คือ ผู้จัดการทีม นั่นเอง ซึ่ง ในปัจจุบันมียอดผู้จัดการทีมที่เป็นที่รู้จักกันในวงการฟุตบอลไมว่าจะเป็น เจอเก้น คล็อปป์ เป็บ กวาร์ดิโอล่า โจเซ่ มูรินโญ่ ซีเนดีน ซีดาน อันโตนิโอ คอนเต้ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นยอดผู้จัดการทีมที่มีความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาแฟนบอลอยู่แล้วแต่ทว่ายังไม่มีผู้จัดการทีมรายใดที่ได้รับการยอมรับและความเคารพจากคู่แข่งและรวมทั้งแฟนบอลทั่วโลกได้มากที่สุดเท่ากับชายคนหนึ่งซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอล จะเป็นใครไปเลยไม่ได้เรากำลังพูดถึงยอดกุนซือแห่งยุค 90 นั่นก็คือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือที่นำพาความสำเร็จอย่างมากมายให้กับทีม แมนฯ ยูไนเต็ด นั่นเอง
โดย เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามาคุมทีมปีศาจแดงในช่วงปี 1986 ต่อจาก รอน แอตกินสัน เฮดโค้ช ในสมัยนั้น ที่กระเด็นตกเก้าไปถึงแม้จะสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ก็ตามที จึงทำให้เขาเผชิญกับแรงคาดหวังจากแฟนบอลเร้ด อาร์มี่เป็นอย่างมาก แต่ความยากลำบากของเฟอร์กี้ไม่ใช่มีเพียงเเท่านี้ เมื่อยุคนั้น มี ลิเวอร์พูล คู่อริตลอดกาลที่ครองความยิ่งใหญ่ในประเทศอยู่ ยังไม่นับทีม อาร์เซน่อล และ เอฟเวอร์ตันที่เป็นสองที่เข้ามาท้าชิงอีกด้วย
ในช่วง 18 เดือนแรกของการคุมทัพผีแดง ดูเหมือนจะราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ หลังในฤดูกาลนั้นเขาพาทีมจบอันดับสองของลีกเป็นรองทีม ลิเวอร์พูลลที่คว้าแชมป์ในปี 1988 ภายหลังฤดูกาลต่อไป ทีม แมนฯ ยูไนเต็ดกับต้องประสบพบเจอกับปํญหาอีกครั้งเมื่อ ทีมผีแดง ปราชัย ต่อ ทีมร่วมเรื่องอย่่าง แมนฯ ซิตี้ขาดลอย 5-1 ในเดือน พฤศจิกายน 1989 การพ่ายแพ้ในครั้งนี้ส่งผลให้กระแสจากแฟนบอลของทีม เรียกร้องให้การปลด เฟอร์กี้ ออกจากตำแหน่ง ซึ่งปีนั้นทีมปีศาจแดงจบเพียงอันดับ 11 ของตารางเท่านั้น
แต่ บอร์ดบริหารยังเชื่อมั่นในตัว เฟอร์กูสันให้อยู่พิสูจน์ฝีมือต่อไป หลังจากนั้นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อการกลับมาอยู่ยุครุ่งเรืองของสโมสรอีกครัั้ง
หลังจากนั้น เพียงแค่ 2 ปี ใบแรกของ ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทัพของ เฟอร์กูสัน เกิดขึ้นในเกมเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ในรอบชิงชนะเลิศ นัดรีเพลย์ ฟุตบอลถ้วยใบเเก่าแก่อย่าง เอฟเอ คัพในปี 1991 และต่อมาก็ยังสามารถคว้าแชมป์ วินเนอร์ คัพด้วยการลบสบคำประมาทด้วยการโค่น บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่สเปน ได้ในนัดชิงชนะเลิศที่ ร็อตเตอร์ดัม ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การเป็นแชมป์ลีกอังกฤษยังเป็นรายการใหญ่ที่สุดที่ทางสโมสรต้องการ ซึ่ง เฟอร์กี้ รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ความหวังที่นำพาทีมเป็นแชมปลีกสูงสุดก็ยังล้มเหลวอีกเช่นเคย เมื่อถูก ลีดส์ ยูไนเต็ด ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปในที่สุด ถึงแม้จะผิดหวังกับแชมป์ลีกเช่นเคยแต่ก็ยังมีถ้วยลีกคัพปลอบใจ
จนกระทั่งการเข้ามาของ เอริก คันโตน่า กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสที่ ทีมดึงตัวมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านปอนด์ซึ่งถือว่าเป็นค่าตัวที่สูงในเวลานั้น และหลังจากนั้น ก็องโต ก็กลายเป็นจิ๊กซอร์ที่สำคัญของเฟอรืกี้ ในการไล่ล่าแชมป์ที่ทีมปีศาจแดงตั้งหน้าตังตารอคอยกันมายาวนานถึง 26 ปี ด้วยเถลิงแชมป์พรีเมียร์ชิพได้สำเร็จในปี 1993 แต่ว่าในฤดูกาลถัด แมนฯ ยูไนเต็ดก็ต้องหมดสิทธิ์ใช้งาน คันโตน่า หลังไปทำวีระกรรมก้องโลกด้วยการกระโดดถีบแฟนบอล คริสตัลพาเลช ซึ่งการขาดนักเตะที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย ทำให้สงผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการป้องกันแชมป์ จนในเกมสุดท้ายของฤดูกาลพลาดท่า แบล็คเบิร์น โรเเวอร์ส จนชวดป้องกันแชมป์ในท้ายที่สุด
พอในปี 1995 แฟนบอลก็ต้องช็คกันถ้วนหน้าเมื่อ กุนซือชาวสกอต์แลนดืผ่าตัดเปลี่ยนทีมขนานใหญ่ด้วยการขายเตะชื่อดังอย่าง พอล อินซ์, มาร์ค ฮิวจ์ม อังเดร แคนเชลสกีส์ ออกไปจากทีม แล้วหันมาใช้ดาวรุถ่งที่ขึ้นมาจากเยาวชนของสโมสรอย่าง เดวิด เบคแฮม สองพี่น้องเนวิลล์ ,พอล สโคลส์ และ นิกกี้ บัตต์
.ในเวลานั้น กูรูนักวิจารณ์ทั้งหลายมองว่า ทีมแมนฯ ยู ชุดนี้ที่เเต็มไปด้วยดาวรุ่งทั้งทีม คงไม่ม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้แน่นอน แต่สุดท้าย ทีมดาวรุ่งกลุ่มนี้ หักปากกาเซียน ด้วยการคว้าสามแชมป์ ได้อย่างสุดยอด ในปี 1999 ที่เป็นความทรงจำที่แฟนบอลทั่วโลกและทีมผีแดงได้้จดจำความยอดเยี่ยมในครั้งนี้ไปอีกนานแสนนาน จากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ เฟอร์กูสันได้เข้ารับยศพระราชทานตำแหน่งเซอร์
อย่างไรก็ตามวันเเวลาผ่านไปกลุ่มลูกหม้อที่ร่วมกันคว้าสามแชมป์มาเริ่มโรยราตามอายุ ทัพอสูรแดงมีการเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยมีดาราชูโรงอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ย้ายมาจากเอฟเวอร์ตัน กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เฟอร์กี้ดึงตัวเขามาจากทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอนและ คาร์ลอส เตเบซ ที่ถูกดึงตัวมาจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ดในเวลาต่อมา ทั้งสามคนผนึกกำลังกลายเป็นกลจักรถล่มประตูช่วยให้ แมนฯ ยู คว้าดับเบิลแชมป์อย่างถ้วย ยูซีแอล และพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในปี 2008
แต่ในฤดูกาล 2009 ก็ต้องเกิดเหตุช็อคโลกอีกครั้งจากการย้ายทีมสุดฮือฮาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตัดสินใจอำลาทีมย้ายไปซบ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวแพงที่สุดในโลก ด้วยค่าตัว 86 ล้านปอนด์ และอีกสี่ปีต่อ คาร์ลอส เตเบชก็ย้ายไปอยู่กับทีมร่วมเมือง อย่างแมนฯ ซิตี้ในที่สุด
แต่ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงนักเเตะในทีมอยู่บ่อยครั้ง ทีม แมนฯ ยูไนเต็ดยังเดินอยู่เส้นทางลุ้นแชมป์เช่นเดิมและยังคงตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งยอดทีมยุโรปด้วยการคว้าแชมป์ลีกได้อีก 2 สมัยในปี 2011 และ 2013 ซึ่งในฤดูกาล 2013 เฟอร์กี้ได้คว้าตัว โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าทีมชาติฮอนแลนด์ มาจากเซน่อลจนเจ้าตัวกลายเป็นกุญจสำคัญจนพาทีมคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 20 ล้มสถิติ ลิเวอร์พูลที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย ได้สำเร็จ
ซึ่งการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ถือเป็นถ้วยแชมป์ทิ้งท้ายของ เฟอร์กูสัน ก่อนเจ้าตัวจะลงจากตำแหน่งในที่สุด โดยการลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมปีศาจแดงของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือเป็นเรื่องใจหายสำหรับแฟนบลอเร้ด อาร์มมี่ อย่างมาก
หลังจากนั้นมา ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยได้กลับไปอยู่ในจุดสูงสุดเเหมือนเช่นในอดีตอีกเลย หลังจากนั้น ทีม ปีศาจแดง ก็เปลี่ยนผลัดกุนซืออยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็น เดวิด มอยส์ , หลุย ฟานกัล, โจเซ่ มูรินโญ่ ที่ยังไม่มีใครทำผลงานได้เทียบชั้นกับ ยอดกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ชาวสกอตแลนด์ได้เลย
ในปัจจุบัน ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ภายใต้การคุมทีมของ โอเล่ กุนนา โซลชา ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่นของทีมนั่นเอง ซึ่งก็ยังมองไม่เห็นวี่แววที่จะกลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ถึงกระนั้น เราก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า เฮดโค้ชชาวนอร์เวย์รายนี้จะสามารถพาทีมกลับมาคว้าถ้วยแชมป์มาประดับตู้โชว์ในสโมสรอีกได้หรือไม่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่าที่ ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เดินชนกับความสำเร็จมากมายได้ก็เพราะมี ชายที่ชื่อ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน อยู่เป็นแม่ทัพใหญ่และด้วยความทุ่มเทในการคุมทีมข้างสนามรวมถึงการกระตุ้นลูกทีมในห้องแต่งตัวของเขายังคงเป็นเรื่องราวที่จดจำได้ขึ้นใจของแฟนบอลทีมปีศาจแดงในยามที่คิดถึงชายผู้ที่เปี่ยมไปด้วยบารมีและเป็นที่รักของเล่านักเตะที่ได้ร่วมงานด้วย ถึงแม้เฟอร์กี้จะไม่ได้ทำหน้าที่คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อีกแล้วก็ตาม แต่ ชื่อของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังจะตราตรึงอยู่ในใจแฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันเสื่อมคลาย
แจกฟรี สูตรบาคาร่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น